"แชมป์เปี้ยน" ภาพยนตร์สั้นที่ชนะเลิศโครงการ "Sangsom หนังสั้นโฆษณา" ด้วยรางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่งและบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ภายใต้คอนเซป "คนไทยถ้าคิดจะทำอะไร ก็ไม่แพ้ชาติใดในโลก" ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับ "วาดะ" โค้ชมวยชาวญี่ปุ่นที่ถูกส่งมาปั้น "ไอ้กบ" หนุ่มนักมวยรูกี้ชาวไทยที่ทางค่ายมวยคาดหวังไว้ว่าจะต้องมาแทนบัวขาวอย่างแน่นอน แต่แล้วในความสำเร็จย่อมมีอุปสรรค เมื่อทั้งคู่กลับคุยกันไม่รู้เรื่องเลยเพราะเนื่องด้วยภาษาที่ต่างกัน ทำให้โค้ชวาดะต้องพยายามหาวิธีการในการสื่อสารกับกบเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายในการปั้นกบให้ได้

             ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับเกียรติจากคุณวาดะ ซึ่งเป็นชาวญี่ปุ่นจริงๆมานำแสดง ในตอนแรกนั้นการเริ่มงานกันค่อนข้างลำบาก (อย่าว่าแต่กบเลย ผู้กำกับก็ยังคุยไม่รู้เรื่อง) จึงต้องมีทั้งล่ามและฝ่ายอื่นๆเข้ามาช่วยในการเตรียมงานก่อนการถ่ายทำ ซึ่งผลที่ได้รับนั้นเกินคาดเมื่อทางคุณวาดะสามารถทดลองเล่นบทบาทของโค้ชได้อย่างน่าประทับใจเนื่องจากเขาก็มีทักษะการชกมวยเช่นกัน ทำให้การทำงานง่ายขึ้นและส่งให้หนังมีความสมจริงมากยิ่งขึ้น

             ส่วนทางด้านนักมวยหนุ่มของเรารับบทโดย "พี่นนท์ กระทิงแดงยิม" เรื่องทักษะมวยคงไม่ต้องพูดถึง แต่ที่น่าประหลาดใจคือเขาสามารถถ่ายทอดบทบาทออกมาได้อย่างไม่เคอะเขินเช่นกัน ทำให้สามารถประชันบทกับคุณวาดะได้อย่างราบรื่น ทางพี่นนท์ได้กล่าวไว้ว่า "รู้สึกตื่นเต้นและยินดีเป็นอย่างมากที่ได้ร่วมงานกับทางทีม และรู้สึกว่าการทำงานมีความเป็นกันเองมาก ทำให้ผมไม่กดดันและสามารถแสดงได้อย่างเต็มที่" จนเมื่อหลังปิดกล้องเรากลับเพิ่งมาทราบทีหลังว่าพี่นนท์เคยเล่นละครจักรๆวงศ์ๆกับทางช่องเจ็ดมาก่อน! (ก็ถึงว่าสิ ทำไมเล่นซะเนีนขนาดนี้)

              บรรยากาศในกองถ่ายเป็นไปอย่างราบรื่นและสนุกสนาน ทุกคนสนุกกับสิ่งที่ตัวเองได้ทำทั้งทางฝั่งนักแสดงและทีมงาน ทางค่ายมวยของมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรีที่เป็นผู้ให้ความร่วมมือเรื่องสถานที่ถ่ายทำก็คอยให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี ทำให้การทำงานเป็นไปได้อย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ ทางคุณวาดะบ่นออกมาตลอดการถ่ายทำว่า "เหนื่อย!! แต่สนุกมากกว่า!!" ส่วนทางด้านพี่นนท์นั้นก็ดูมีพลังงานเหลือเฟือมากๆในกองถ่ายทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

              หลังจากการประกาศรางวัลจบลง ความสำเร็จของทาง A.PLANNED กลับเพิ่งจะเริ่มต้น! เมื่อทางสำนักข่าวเดลินิวส์ติดต่อมาขอสัมภาษณ์และถ่ายทำสกู๊ปลงหนังสือพิมพ์และสื่อออนไลน์ต่างๆ ทำให้ทาง A.PLANNED เริ่มมีชื่อเสียงในวงการมากขึ้น ซึ่งความสำเร็จนี้คงไม่เกิดขึ้นหากขาดสิ่งสำคัญทีมงานทุกฝ่ายที่คอยช่วยเหลือกันมาจนทำให้ทางทีมก้าวมาถึงจุดนี้ได้